วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เรียนรู้ที่จะเที่ยวคนเดียว

1 ปี มี 365 วัน 252 วัน ของคุณหมดไปกับการทำงานวันล่ะ 8 ชั่วโมง ที่ไม่เคยหยุดอยู่ที่ 8 ชั่วโมง ติดอยู่บนรถอีก 3 ชั่วโมง ถ้าโชคดีหน่อยก็ได้มีโอกาสกลับมานั่งดูหนังน้ำเน่าอีกสัก 2 ชั่วโมง ปลอบประโลมใจยามเหนื่อยล้า นั่งกอดหมากอดแมวตอนกลับบ้านบนเตียงเพียงคนเดียว ก่อนที่ชีวิตของคุณจะกลับเข้าสู่วงจรเดิมๆ ในเช้าวันถัดมาเหมือนทุกๆ วัน

13 สิ่งที่แบ็คแพ็คเกอร์ควรทำ ก่อนออกสู่โลกกว้าง

13 สิ่งที่แบ็คแพ็คเกอร์ควรทำ ก่อนออกสู่โลกกว้าง
แล้วแบบนี้คุณจะปล่อยเวลาแห่งการผจญภัยอันน้อยนิดให้เหมือนเดิมอยู่ทำไม ลองมาทำ 13 สิ่งง่ายๆ ให้ไม่เหมือนกับทุกเช้าที่ผ่านมา
1.จำกัดงบ
ผมอยากให้คุณจำกัดงบตั้งแต่เริ่มต้น เพราะแน่นอนแล้วว่าสุดท้ายมันต้องบานปลาย แต่อย่างน้อยคุณก็ไม่ต้องอดตายในวันกลับ แถมเอามาโพสโชว์ความเก๋าใน Pantip ได้แบบเฟี้ยวๆ
13 สิ่งที่แบ็คแพ็คเกอร์ควรทำ ก่อนออกสู่โลกกว้าง

2.ลองซุ่มดูไหม
กางแผนที่แล้วจิ้มลงไปเลย คุณไม่รู้หรอกว่าจะจิ้มไปถูกประเทศไหน และนั้นคือความตื่นเต้นที่คุณจะได้รับเหมือนตอนทยอยเต๋าในเกมเศรษฐี ถ้าคุณไม่รู้จะไปไหนลองใช้วิธีนี้ก็ไม่เสียหาย
3.เปลี่ยนฤดู
ที่เดิมเวลาเปลี่ยน ฤดูเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน คุณจะได้เห็นสิ่งที่คุณไม่คิดจะมีโอกาสได้สัมผัสมาก่อน ถ้าใครบอกให้ไปญี่ปุ่นตอนหน้าหนาวลองไปตอนหน้าร้อนดูสักครั้งสิแล้วคุณจะติดใจ
4.เมืองเล็กดีกว่าเมืองใหญ่
เมืองหลวงทันสมัยมีทุกอย่างสะดวกสบายผมไม่รู้จะไปทำไม รู้สึกชีวิตมันขาดสัมผัส เมืองเล็กอบอุ่นอิ่มเอมรอยยิ้มและความใส่ใจ เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ยังไม่ถูกรุกรานจากต่างชาติ คุณจะได้สัมผัสคำว่าดั้งเดิม ศิลปะขนานแท้ ที่สำคัญค่าครองชีพถูกว่าแน่นอนผมรับประกัน
5.นอนแบบชาวบ้าน
โรงแรมล่ะฟ้าราคาแพงจะไปนอนทำไม ลองมานอนที่พักราคาเบาๆ แบบโฮมสเตย์ หรือโรงแรมท้องถิ่นที่บริการคุณเหมือนคนในครอบครัวที่ไม่จำกัดพื้นที่ของคุณอยู่แค่ในห้องนอน รับรองว่าต่อให้ไปคนเดียวคุณก็ไม่เหงา
13 สิ่ง3
6.กินแบบชาวบ้าน
ไปถึงที่มันต้องลอง!! เหล้าต้ม เบียร์สด ชา กาแฟ ขาหมูเยอร์มัน ซูชิ บิบิมบับ ข้าวแกงกระหรี่ หมูหัน กินมันทุกอย่างที่เป็นของท้องถิ่นทำเอง อย่าบอกผมจะว่าคุณเดินทางไปครึ่งโลกเพื่อกินสตาร์บัค
7.คุยกับชาวบ้าน
เริ่มง่ายๆ จากร้านกาแฟเล็กๆ ที่คุณไปกิน หรือป้าเจ้าของบ้านที่คุณไปพัก คุณอาจจะได้รู้อะไรที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับที่นี่มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ประเพณี ไม่แน่คราวหน้าคุณอาจได้ที่พักพร้อมกาแฟฟรีจากเพื่อนใหม่คนนี้ก็เป็นได้
8.เลือกเดินทางด้วยวิธีใหม่ๆถ้าเคยนั่งเครื่องบินไปลองนั่งเรือไป ถ้าเคยนั่งรถไปลองรถไฟดู ถ้าเคยขี่จักรยานไปลองเดินดูแล้วจะรู้ว่าบางครั้งเรื่องราวระหว่างทางก่อนถึงจุดหมายก็เป็นความทรงจำดีๆ ได้ไม่แพ้กัน
13 สิ่ง4
9.นอนดึก
ใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า หลับตาเมื่อหมดแรงแล้วเท่านั้นจะได้ไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่เสียไป มาทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม!! ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะคอนเสิร์ตหรือปาร์ตี้ผับไหน หรือจะร้านเหล้าโต้รุ่งข้างทาง แต่ล่ะประเทศก็มันไม่เหมือนกันแน่นอน อดนอนแค่นี้เรื่องเล็ก
10.ตื่นเช้า
ลองเริ่มต้นเช้าวันใหม่พร้อมพระอาทิตย์รับลองวันนั้นของคุณจะไม่ธรรมดา
11.ปิดโลกโซเชียลบ้าง
อย่าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านแต่ข้อความในมือถือ เช็คว่าฉันได้ยอด Like เท่าไหรแล้วนะ จะโพสอะไรดี ปิดบ้าง ปิดไปเหอะ!! ของจริงอยู่ตรงหน้า หัดซึมซับบรรยากาศเสียบ้าง โทรศัพท์เล่นเมื่อไหรก็ได้
12.ถ่ายภาพให้น้อยลงจดจำทุกอย่างด้วยความทรงจำไม่ต้องถ่ายภาพที่เดียวล่อไปสักร้อยรูป ลองเก็บความทรงจำนั้นไว้ด้วยตาและความประทับใจ เหมือนรักแรกพบที่คุณถ่ายเก็บไว้ไม่ได้ แต่นึกถึงเมื่อใดก็อมยิ้มทุกครั้ง
13.เขียนจดหมายถึงตัวเอง
เคยย้อนกลับไปอ่านเฟรนชิพสมัยเด็กแล้วขำตัวเองบ้างไหมครับ เคยนั่งอ่านไดอารี่เล่มเก่าแล้วฮาว่ากูเพ้ออะไรเนี้ยบ้างไหม ถ้าไม่เคยลองดูครับ ลองเขียนจดหมายจากที่นั้นส่งหาตัวเองดู เชื่อผมว่ามันจะสร้างความประทับใจซ้ำๆ ทุกครั้งที่เปิด และทุกครั้งมันจะมีเรื่องเล่า ถึงเราจะเขียนแค่ “สวัสดี”

เกิดเป็นชายต้องดูแลตัวเองเป็น

10 กฏเหล็กของผู้ชายที่ใส่ใจตัวเอง ดูดีได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า



เปิดตัวเซ็คชั่น Grooming ฉบับแรกของเราในเว็บไซต์อดัมส์เลิฟ ด้วยเรื่องง่ายๆ แต่หนุ่มน้อยหลายคนมักละเลยหรือมองข้าม ว่าจะดูแลตัวเองอย่างไรให้หน้าเป๊ะ แถมยังดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า พอดีช่วงถ่ายแบบอดัมส์เลิฟ เลยถือโอกาสสัมภาษณ์พี่สิทธิ์ ธนิก เศรษฐกุลธำรง ช่างแต่งหน้าคนเก่งและใจดีของเรา ปรากฎว่าพี่เขาเป็น Expert ด้านนี้จริงๆ เลยฝากบอกน้องๆ กับ 10 กฏเหล็กที่เราต้องดูแลตัวเองในทุกๆ วัน และทุกโอกาส (ไม่ใช่เฉพาะช่วงเดทอย่างเดียวนะจ๊ะ)

ข้อแรก

อันนี้ซิมเปิ้ล รู้ๆ กันอยู่ แต่ไม่ค่อยทำ คือต้องล้างหน้าให้สะอาด และอย่านอนทั้งที่ยังมีแป้งอยู่เพราะจะหมักหมม 12 ชั่วโมง ซึ่งข้อนี้ แม้จะไม่เห็นผลในวันสองวัน แต่ในระยะยาวจะทำให้หน้าเรามีสิ่งสกปรกและเราก็จะสงสัยว่า ทำไมหน้าเราไม่ใสนะ อ้อ และเคล็ดลับที่สำคัญคือ พอล้างหน้าแบบภาพรวมเสร็จแล้ว จะต้องเก็บพวกใต้ตา ซอกจมูกด้วยคัตตั้นบัดให้สะอาดด้วย แล้วพอล้างหน้าเสร็จก็ให้ตามด้วยมอยเจอไรเซอร์ อันนี้พี่สิทธิ์บอกว่าจะยี่ห้ออะไรก็ได้ แล้วแต่กำลังซื้อของแต่ละคนนะ

ข้อ 2
น้องหลายคนเวลาไปข้างนอก อยากใช้รองพื้นบ้างไรบ้าง ก็ใช้ได้นะ แต่ว่าใช้นิดเดียวพอ ที่สำคัญเราต้องสังเกตรูปหน้า สภาพผิวของเราว่า ถ้าเรามีส่วนที่ดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องทาตรงนั้นก็ได้ ประมาณว่าตบเป็นจุดๆ แล้วเกลี่ยเอา เพราะถ้าเราใช้ทั้งหน้าแล้วเนี่ย มันเยอะไปไงและอาจจะทำให้ดูลิเกไปได้

ข้อ 3 
ในแต่ละอาทิตย์ เราไม่รู้หรอกว่าหน้าเราเจออะไรมาบ้าง อย่างที่บอก บางทีลืมล้างหน้า หรือล้างไม่สะอาด ทีนี้การสครับผิวอาทิตย์ละหนึ่งครั้งช่วยคุณได้ จะทำให้เซลส์ผลัดผิว แล้วก็หน้าเนียนใส ไร้สิ่งสกปรก

ข้อ 4 
พอมาถึงข้อนี้ เป็นการย้ำเตือนว่าเรื่องผิวหน้าและผิวกาย เป็นสิ่งที่ต้องดูแลกันทุกวันและสม่ำเสมออย่างที่สุด หลายคนออกแนวขี้เกียจ ดูแล 3 วัน ที่เหลือลืมบ้างไรบ้าง อันนี้จะไปออกผลในระยะยาวนะจ๊ะ

ข้อ 5 
มาถึงผิวกายกันบ้างดีกว่า การทามอยเจอไรเซอร์ทั้งตัวนี่เป็นสิ่งที่เรารู้กันอยู่แล้ว แต่ว่ามีเคล็ดลับนิดนึงคือว่า ถ้าพอทาแห้งแล้ว ก็ขยันลงซ้ำได้อีก จนกว่าน้ำมันจะออกมาจากผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนนอน ลงได้แบบไม่ต้องกล้วผิวมันกันเลยทีเดียว เพราะตื่นเช้ามาผิวคุณจะนุ่มมากๆ น่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง

ข้อ 6 
คือผู้ชายอย่างเราเนี่ยมีกลิ่นตัวใช่มะ แรงมากแรงน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอาหารที่รับประทาน ดังนั้น การทาโรลออนก็สำคัญ เลือกที่เหมาะกับบุคลิก และให้กลิ่นแบบกลางๆ ไม่โดดมากจะเป็นดี

ข้อ 7 
ควรเลือกน้ำหอมที่เป็นสไตล์เราให้คนรู้ บางคนก็จะฉีดกลิ่นเดียวตลอดเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ หรือจากการคุยกับหลายคน ที่ชอบใส่น้ำหอมตามอารมณ์ เน้นตามธีมไปไม่จำเจ หรือว่าจะใช้แบบผสมสามกลิ่นแล้วออกมาเป็นแบบเฉพาะตัวที่สุดอันนี้ก็เริ่ด ทีนี้เวลาฉีดก็ฉีดไกลตัวให้มันกระจายฟุ้ง อย่างนี้ถึงจะติดทนนาน ถ้าเราไปคนเดียวฉีดได้ 3 สเต็ป แต่ถ้างานกลางคืนฉีดครั้งเดียวก็พอ ไม่งั้นไปตีกับคนอื่นแล้วมันจะมึน

ข้อ 8 
ไล่มาจนถึงเท้าละ หมั่นตัดเล็บให้สั้นแล้วก็ไม่ให้มีขี้เล็บ แล้วทาวาสลีนช่วงเล็บและส้นเท้า เพราะวาสลีนจะมีความชุ่มชื้นเยอะและทำให้ผิวอ่อนโยน วาสลีนนี่ดีจริง หลายคนใช้แต่ครีมหรือครีมส้นเท้าแตกที่มีขายตามท้องตลาด พี่สิทธิ์บอกว่ายังสู้วาสลีนไม่ได้เลย

ข้อ 9 

หนุ่มหลายคนมักให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าหน้าผม แต่ปรากฎว่าลืมใบหูซะนี่ เพราะฉะนั้น อย่าลืมทำความสะอาดใบหูกับข้างหลังหูเพราะเราผมสั้น เห็นได้ชัดนะจ๊ะ

ข้อสุดท้าย 
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ รังแค ซึ่งมีหลายสาเหตุ อาจเกิดจากความเครียด การทำความสะอาดไม่ถึง ปล่อยให้ผมมันเยอะๆ หรือปล่อยให้หนังศีรษะแห้งเกิน ผู้ชายส่วนใหญ่มักมองข้างเยอะ เราต้องพยายามอย่าให้หนังศรีษะแห้งจนเกินไป

เชื่อว่าหลายคนคงรู้วิธีดูแลตัวเองกันดีอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดนี้คือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเพิ่มเติม ถ้าทำได้ทั้งสิบข้อประจำและสม่ำเสมอ รับรองดูดีตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้ากันเลยทีเดียว

วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เติบโตด้วยตัวเอง

              เรื่องของผมก็มีอยู่ว่า ตอนเด็กผมอาจจะเป็นเด็กมีปัญหา ความรักอะหรอไม่รู้จักหรอ โดนทิ้งให้อยู่คนเดียวตั้งแต่เด็ก จนตอนโตผมได้มารู้จักความรัก ผมนี่แบบมีความสุขแบบบอกไม่ถูกอะคราบ ผมไม่รู้นะความหลายๆคนคิดไง กับความรักนะครับ แต่ทุกคนก็ต้องมีการผิดหวังกันทุกคน และต้องเรียนรู้ว่าความรักมันไม่ได้มาง่าย เราจึงต้องเรียนรู้ที่ต้องดูแลตัวเองก่อนดูแลคนอื่น ความรักมันจะเกิดขึ้นเอง. แต่มีกี่คนที่เข้าใจว่า คนที่รักการเติบโต เขาไม่ทำตัวเป็นภาระ ให้อีกฝ่ายต้องห่วง จะเติบโตไปด้วยกันได้ เกิดจากการสนับสนุนกัน ไม่ใช่ถ่วง ถ้าอยากมีคู่เพราะหวังพึ่งพาคนพาเติบโต แปลว่าเรายังไม่โตพอ คนที่พร้อมจะเติบโตคือคนที่รักที่จะส่งเสริมอีกฝ่ายและรักตัวเองเป็นแล้ว
                                                                                                               PEAW(:
..............................................................................................................